เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น



ข่าว: SMF - Just Installed!

แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.





เชียร์บอล

Messages - BigBoss555

หน้า: [1] 2 3 ... 795
1

ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ คอนเฟิร์มว่า ซน ฮึง มิน จะกลับสู่สโมสรในสัปดาห์หน้าเพื่อที่จะกล่าวอำลาแฟนบอลก่อนเกมพบกับ สลาเวีย ปราก ในแชมเปี้ยนส์ลีก

ดาวยิงวัย 33 ปีปิดฉากการค้าแข้งกับ สเปอร์ส ในช่วงซัมเมอร์ด้วยการคว้ายูโรป้าลีกหลังอยู่กับทีมมานานทศวรรษ และเขาก็ย้ายไปเล่นกับ แอลเอ เอฟซี ในเมเจอร์ลีก

ซน ประกาศการอำลาทีมของเขาในระหว่างที่ สเปอร์ส เดินทางไปทัวร์ปรีซีซั่นในเกาหลีใต้ ทำให้เขายังไม่ได้กลับไปพบปะกับแฟนบอลที่สนาม ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ สเตเดี้ยม เลย

อย่างไรก็ตาม "ไก่เดือยทอง" เปิดเผยว่า ซน จะเดินทางมาชมเกมพบกับ สลาเวีย ปราก ในแชมเปี้ยนส์ลีกและจะใช้เวลาก่อนเกมคิกออฟกล่าวอำลาแฟนบอลรวมถึงสโมสร

"ตอนที่ผมประกาศการตัดสินใจอันยากลำบากเพื่ออำลา สเปอร์ส ในช่วงซัมเมอร์ ตอนนั้นผมอยู่ในเกาหลีใต้และไม่ได้มีโอกาสบอกลาแฟนบอลในสนามอย่างเหมาะสม" ซน เผย

"ตอนนี้ผมแฮปปี้มากเพราะผมจะได้กลับสู่ลอนดอนในวันที่ 9 ธันวาคมเพื่อชมเกมแชมเปี้ยนส์ลีก และจะได้กล่าวกับแฟนบอลด้วยตัวเองว่าแรงเชียร์และความรักของพวกเขาตลอด 10 ปีที่ผ่านมามีความหมายต่อผมและครอบครัวของผมขนาดไหน จะเป็นค่ำคืนอันซาบซึ้งแต่นี่เป็นสิ่งสำคัญสำหรับผมและสโมสร"

ซน ทำไปแล้ว 12 ประตูกับ 4 แอสซิสต์จากการลงสนามให้ แอลเอ ไป 13 นัดด้วยกัน แต่ฤดูกาลของพวกเขาจบลงแล้วหลังแพ้ต่อ แวนคูเวอร์ ไวท์แคปส์ ในรอบเพลย์ออฟ

เมเจอร์ลีกฤดูกาลใหม่จะเริ่มต้นในเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า ทำให้เกิดข่าวว่า ซน อาจย้ายมาเล่นกับสโมสรในยุโรปแบบยืมตัวเพื่อรักษาความฟิต แต่แข้งชาวเกาหลีใต้ปฏิเสธเรื่องดังกล่าว

"ผมไม่เคยคุยกับสโมสรไหนในเรื่องการย้ายทีมช่วงหน้าหนาวเลยนะ ข่าวแบบนั้นไม่จริงเลยสักนิด สำหรับผมแล้วการแสดงความเคารพต่อสโมสรของผมและทุ่มเททุกอย่างให้กับทีมที่ผมเล่นด้วยน่ะสำคัญที่สุดแล้ว สิ่งนั้นไม่เปลี่ยนแปลงไปหรอก"

"ผมไม่ย้ายออกจาก แอลเอ เอฟซี ในช่วงหน้าหนาวหรือไม่ว่าจะช่วงไหนระหว่างที่ผมยังอยู่ที่นี่ ผมเคารพสโมสรเป็นอย่างมากนะ จะไม่มีการย้ายทีมแบบยืมตัวหรือในทำนองนั้นเด็ดขาดตราบเท่าที่ผมยังสวมชุดแข่งนี้อยู่"

"ผมรู้ว่าแฟนๆสับสนเวลามีข่าวลือออกมาแบบนี้แต่ข่าวแบบนั้นไม่จริงเลย และบอกตามตรงนะ การพูดถึงข่าวนั้นอาจเป็นการหมิ่นทีมของผมด้วยซ้ำ ผมรักสโมสรนี้และผมก็เคารพทุกคนในสโมสรเป็นอย่างมาก"

2

รูเบน อโมริม กุนซือของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชี้ว่า มาเธอุส คุนญ่า ยังพัฒนาตัวเองให้ดีกว่านี้ได้อีกและบอกเขาไม่จำเป็นต้องกังวลกับการทำประตูมากเกินไป

คุนญ่า จะกลับมาเป็นส่วนหนึ่งของทีมสำหรับเกมที่ แมนฯ ยูไนเต็ด จะลงสนามพบ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ในคืนวันพฤหัสบดี หลังจากพลาดการลงเล่นใน 2 เกมที่ผ่านมา

ดาวเตะวัย 26 ปีเพิ่งทำไปแค่ประตูเดียวจากการลงเล่น 11 เกมนับตั้งแต่ย้ายร่วมทีม กระนั้นกุนซือชาวโปรตุเกสบอกว่าตัวเลขสถิติไม่ใช่สิ่งเดียวที่ใช้ตัดสินนักเตะ

"เขายังพัฒนาได้มากกว่านี้อีกหลายระดับนะ เขาอยู่กับสโมสรที่ต่างจากเดิม ความกดดันต่างออกไป เขาต้องดิ้นรนเพราะเขาทำประตูไม่ได้ เขาคิดถึงเรื่องตัวเลขมากเกินไปแต่อิทธิพลที่เขามีกับทีมก็สำคัญกับเราเป็นอย่างมาก" อโมริม กล่าว

แม้ คุนญ่า จะกลับมาได้แล้วแต่ "ปีศาจแดง" ยังคงขาดนักเตะแบบ เบนยามิน เชชโก้ และ แฮร์รี่ แมกไกวร์ ต่อไป

นอกเหนือจากนี้ยังมีนักเตะอีก 2 คนที่ต้องรอลุ้นสภาพความพร้อมด้วย หนึ่งในนั้นอาจเป็น บรูโน่ แฟร์นานเดส ที่มีปัญหารบกวนในช่วงท้ายเกมชนะ คริสตัล พาเลซ

"มีนักเตะสองคนที่เราต้องรอลุ้น ผมไม่บอกคุณหรอกว่าใครเพราะมันจะทำให้เราต้องปรับเปลี่ยนการเตรียมตัว ดังนั้นรอดูแล้วกันว่าพวกเขาลงเล่นได้มั้ย ส่วนนักเตะที่เหลือนั้นโอเคดีนะ มาเธอุส กลับมาแล้วแต่ผมมีนักเตะ 2 คนที่อาจลงสนามไม่ได้"

3

เอ็มมานูเอล เอเมก้า ว่าที่นักเตะใหม่เชลซีในซีซั่นหน้า ถูกสตราส์บูร์กสั่งพักงาน 1 นัด หลังให้สัมภาษณ์สื่อโดย “ไม่เคารพคุณค่าของสโมสร”

กองหน้าทีมชาติเนเธอร์แลนด์วัย 22 ปี ย้ายร่วมทัพเชลซีล่วงหน้าเมื่อเดือนกันยายน แต่ยังเล่นให้สตราส์บูร์กจนจบฤดูกาล พร้อมสวมปลอกแขนกัปตันทีม ทว่าเจ้าตัวสร้างดราม่าเมื่อสารภาพว่าเคย “คิดว่าสตราส์บูร์กอยู่ในเยอรมนี” ระหว่างเก็บตัวทีมชาติ

"พูดตามตรง ผมไม่รู้เลยว่า สตราสบูร์กอยู่ที่ไหน ผมคิดว่ามันอยู่ในเยอรมนี แต่กลับกลายเป็นว่าอยู่ในฝรั่งเศส ผมคิดว่าทุกคนคงรู้ว่าตอนนี้สตราสบูร์กอยู่ที่ไหน"

ทำให้สโมสรไม่พอใจและประกาศลงโทษก่อนเกมพบตูลูส

สตราส์บูร์กออกแถลงการณ์ยืนยันว่าการพักแข้งครั้งนี้เกิดจาก “พฤติกรรมไม่สอดคล้องกับค่านิยมของสโมสร” แต่ย้ำว่า เอเมก้า ยังเป็นกำลังสำคัญและจะกลับมาร่วมทีมหลังจบเกมดังกล่าว

หลังโดนพักดาวยิงวัย 22 ปีออกมาขอโทษผ่านอินสตาแกรม บอกว่าไม่เคยมีเจตนาทำร้ายสโมสร พร้อมยอมรับว่า “ยังต้องเรียนรู้อีกมาก” และขอบคุณประธาน มาร์ค เคลเลอร์ รวมถึงเพื่อนร่วมทีมและสตาฟฟ์โค้ชที่ให้คำแนะนำ

"ผมยอมรับและเข้าใจการตัดสินใจของสโมสรที่สั่งพักงานผมในสุดสัปดาห์นี้"

"ผมอายุ 22 ปี ผมทำผิดพลาด และผมรู้ว่าผมยังมีอะไรต้องเรียนรู้อีกมาก และผมต้องเรียนรู้จากสิ่งนี้ ผมรู้ว่าผมต้องทำให้ดีกว่านี้ และผมจะทำผลงานให้ดียิ่งขึ้นทั้งในและนอกสนามเพื่อเป็นตัวแทนของสโมสร นั่นสำคัญสำหรับผม"

"ผมอยากจะย้ำให้ชัดเจนว่าผมไม่เคยตั้งใจที่จะทำร้ายใคร ตั้งแต่ผมมาถึงที่นี่ตอนอายุ 19 ปี ผมก็ทุ่มเททุกอย่างเพื่อสตราสบูร์กมาตลอด"

"ผมภูมิใจที่ได้เล่นให้กับราซิ่ง และภูมิใจที่ได้สวมปลอกแขนกัปตันทีม ทุกคนรู้ว่ามันไม่ง่ายสำหรับผมในช่วงแรก มันเป็นความท้าทายครั้งใหญ่สำหรับผมที่จะประสบความสำเร็จในสตราสบูร์ก แต่ผมก็ยังคงทำงานหนักทุกวันเพื่อไปให้ถึงจุดนั้น"

ก่อนหน้านี้ เอเมก้า เพิ่งถูกแฟนบอลตัวเองโห่ใส่หลังประกาศย้ายไปเชลซี โดยกลุ่มอัลตร้าถึงขั้นขึ้นป้ายว่าเขาเป็น “หมากของ BlueCo” แต่โค้ชเลียม โรเซนเนียร์ ออกมาปกป้องและยืนยันว่าเขายังเป็นกัปตันทีมต่อไป

เอเมก้า ทำผลงานเด่นให้สตราส์บูร์ก ยิง 26 ประตูจาก 64 นัด นับตั้งแต่ย้ายมาจากสตวร์ม กราซ พร้อมย้ำว่าเลือกเชลซีเพราะเห็นภาพรวมโครงการของทั้งสองสโมสร และหวังพาทีมลุยบอลยุโรปก่อนอำลาซัมเมอร์หน้า

4

สมาคมฟุตบอลอังกฤษ ส่งคำเตือนไปถึง ลูคัส ปาเกต้า เพลย์เมกเกอร์ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด แต่จะไม่ลงโทษแบนเพิ่มเติม จากพฤติกรรมหลังโดนไล่ออกในเกมแพ้ ลิเวอร์พูล 2-0

แข้งวัย 28 ปี เถียงผู้ตัดสิน ดาร์เรน อิงค์แลนด์ ในจังหวะทีมเสียฟาวล์ โดนเหลือง 2 ใบติดกันอย่างรวดเร็วช่วงนาที 84 ของเกม พรีเมียร์ ลีก วันอาทิตย์

ก่อนออกจากสนาม ดาวเตะชาวแซมบ้า ยังคงโต้คารมกับทีมงาน และปรบมือประชดคำตัดสินของ อิงค์แลนด์

"ตามแนวทางของสมาคมฟุตบอล เราได้ส่งคำเตือนไปถึง ลูคัส ปาเกต้า" เอฟเอ ออกแถลงเมื่อวันพุธ

"เราเน้นย้ำกับ ปาเกต้า ถึงความรับผิดชอบและหน้าที่ของเขา สำหรับเหตุการณ์ในสนามหลังโดนใบแดงเมื่อเกมวันอาทิตย์"

มีแฟนบอลบางส่วนตั้งข้อสังเกต ปาเกต้า อาจจงใจโดนใบเหลืองโดยพัวพันการพนัน ซึ่งเป็นคดีที่ เอฟเอ เคยสอบสวนแล้วไม่สามารถเอาผิดนักเตะ

อย่างไรก็ตาม จากเหตุการณ์ครั้งใหม่นี้ นอกจากส่งคำเตือนแล้ว เอฟเอ ระบุว่าพวกเขา "จะไม่ดำเนินการอะไรเพิ่มเติม"

นั่นทำให้ ปาเกต้า จะโดนแบน 1 นัดจากการโดนเหลืองสองใบตามปกติ พลาดเกมวันพฤหัสนี้บุกเยือน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

5

เชลซี ตัดสินใจแล้วที่จะขาย นิโคลัส แจ็คสัน แม้ว่าเขาจะต้องย้ายกลับ สแตมฟอร์ด บริดจ์ หลังจากไม่สามารถบรรลุเงื่อนไขซื้อขาดถาวรกับ บาเยิร์น มิวนิก ได้แล้ว

บาเยิร์น แชมป์บุนเดสลีกา จ่ายค่ายืมตัวมหาศาลถึง 14 ล้านปอนด์ เพื่อคว้าตัว แจ็คสัน ไปร่วมทีมตลอดฤดูกาล 2025-26

ภายใต้ข้อตกลง บาเยิร์น ตกลงจะเซ็นสัญญาถาวรกับ แจ็คสัน ด้วยมูลค่า 56 ล้านปอนด์ หากเขาลงเล่นตามจำนวนนัดที่กำหนด

ในตอนแรกยังไม่ชัดเจนว่า แจ็คสัน จะต้องลงเล่นกี่เกมจึงจะได้ย้ายมาเล่นที่ อัลลิอันซ์ อารีน่า อย่างถาวร แต่ อูลี เฮอเนส ประธานสโมสร เปิดเผยเมื่อเดือนกันยายนว่าตัวเลขดังกล่าวอยู่ที่ 40 นัด

แจ็คสัน ลงเล่นให้ บาเยิร์น ไปแล้ว 15 นัดในฤดูกาลนี้ ทำได้ 5 ประตู แต่การที่เขาต้องเดินทางไปลุยศึก แอฟริกัน คัพ ออฟ เนชันส์ ทำให้เขาไม่สามารถลงเล่นได้ตามจำนวนที่ต้องการเพื่อย้ายทีมแบบถาวรได้อีกต่อไป

นั่นหมายความว่าดาวเตะวัย 24 ปี จะต้องกลับ สแตมฟอร์ด บริดจ์ อีกครั้งเมื่อสิ้นสุดฤดูกาล

แต่มีรายงานว่า เชลซี ได้แจ้งให้ แจ็คสัน ทราบอย่างชัดเจนแล้วว่าช่วงเวลาของเขากับสโมสร “สิ้นสุดลง” แล้ว และจะอนุมัติให้เขาออกจากทีมอย่างถาวรในฤดูร้อนหน้า

ฟาบริซิโอ โรมาโน กล่าวว่า แจ็คสัน จะไม่อยู่ในแผนการทำทีมของ เชลซี อีกต่อไป และนักเตะทีมชาติเซเนกัลรายนี้เคารพและเห็นด้วยกับการตัดสินใจครั้งนี้

ดังนั้น เชลซี จึงหวังว่าจะบรรลุข้อตกลงใหม่กับ บาเยิร์น เพื่อให้ แจ็คสัน ได้อยู่ต่อที่ มิวนิก

มีรายงานว่า เชลซี จะให้โอกาสทีมจ่าฝูงบุนเดสลีกาในการเซ็นสัญญากับ แจ็คสัน ก่อนด้วยค่าตัว 56 ล้านปอนด์ตามที่ตกลงกันไว้ก่อนหน้านี้ โดย บาเยิร์น จะรอจนถึงฤดูร้อนหน้าเพื่อตัดสินใจขั้นสุดท้าย

หาก บาเยิร์น ตัดสินใจไม่เซ็นสัญญากับ แจ็คสัน เชลซี จะมองหาทางเลือกอื่นในตลาดซื้อขายนักเตะ โดยมีรายงานว่าสโมสรในอิตาลีกำลังจับตามองสถานการณ์ของเขาอยู่

แจ็คสัน ยังได้รับความสนใจจากสโมสรอื่นๆ ในพรีเมียร์ลีกเมื่อฤดูร้อนที่ผ่านมา โดย อูไน เอเมรี ผู้จัดการทีมแอสตัน วิลล่า เป็นที่รู้กันว่าชื่นชอบเขา เพราะเขาเคยร่วมงานกันมาก่อนที่ บียาร์เรอัล

6

โอเล่ สื่อในอาร์เจนติน่า รายงานว่า ดาร์วิน นูนเญซ กองหน้ากาชาปองของอัล-ฮิลัล ไม่มีความสุขกับการลงสนามโดยมีริเวอร์เพลท แสดงความสนใจ

หัวหอกทีมชาติอุรุกวัย ย้ายออกจากลิเวอร์พูล ไปค้าแข้งในตะวันออกกลางตอนซัมเมอร์ที่ผ่านมา ด้วยค่าตัว 46.3 ล้านปอนด์ โดยเขายิงไป 4 ประตูกับอีก 2 แอสซิสต์จาก 6 เกมลีกที่ลงสนาม

รายงานอ้างว่า มาร์เซโล่ กัลลาร์โด้ นายใหญ่ของริเวอร์เพลท อยากได้หัวหอกวัย 26 ปี และได้ทำการติดต่อไป ซึ่งตามรายงานระบุว่า "หนูน" อยากย้ายสังกัด

แต่การติดต่อล่าสุดไม่ได้มีความคืบหน้า และหาก นูนเญซ ตัดสินใจว่าจะย้ายจริงจังในเดือน ม.ค. นี้ เขาน่าจะเป็นหนึ่งในนักเตะที่ได้รับความสนใจมากมาย

7

มาริโอ คอร์เตกาน่า นักข่าวของ The Athletic เชื่อว่า เรอัล มาดริด พร้อมตอบรับข้อเสนอขาย โรดรีโก้ ปีกแซมบ้า ในตลาดซื้อขายนักเตะปีใหม่

"ข้อเสนอสำหรับโรดรีโก้ จะได้รับการพิจารณา" นักข่าวคนดัง กล่าว

"นักเตะบราซิเลี่ยน สูญเสียสถานะเรื่องการไม่สามารถย้ายทีมได้ไปตั้งแต่ซัมเมอร์ก่อน อย่างไรก็ดี เขามีความต้องการอยู่ต่อ และการที่ไม่มีความสนใจจากพรีเมียร์ลีกเกิดขึ้นอย่างจริงจังเลยไม่มีอะไรมากกว่านั้น"

"ตอนนี้ นักเตะบราซิเลี่ยน ลงเล่นไปแล้ว 30 นัดแต่ยิงประตูไม่ได้สักลูก นี่เป็นสถิติที่เลวร้ายที่สุดของแนวรุกมาดริด เทียบเท่ากับของมาเรียโน่ ดิอาซ"

ทั้งนี้ โรดรีโก้ ตกเป็นข่าวอย่างหนักกับหลายสโมสรในพรีเมียร์ลีกตอนซัมเมอร์ที่ผ่านมา รวมถึงกาลาตาซาราย ยักษ์ใหญ่แดนไก่งวงด้วย

8

แอตเลติโก้ มาดริด ปักป้ายค่าตัว คอเนอร์ กัลลาเกอร์ ไว้ที่ 30 ล้านยูโร ในตลาดเดือนมกราคมนี้ ท่ามกลางความสนใจจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

แมนฯ ยูไนเต็ด ต้องการเสริมกองกลาง หลังจากช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมาโฟกัสไปที่แนวรุกและผู้รักษาประตูเป็นหลัก

ช่วงท้ายตลาดซัมเมอร์ ทีมของ รูเบน อโมริม พยายามทาบทาม กัลลาเกอร์ แต่สุดท้ายการย้ายก็ไม่เกิดขึ้น

อย่างไรก็ตาม "ปีศาจแดง" ยังสนใจอยู่ และอาจกลับมาเดินเรื่องอีกครั้งในเดือนมกราคม โดยมีรายงานว่าตัวนักเตะเองก็อยากได้โอกาสลงเล่นสม่ำเสมอกว่านี้ เพื่อเพิ่มโอกาสติดทีมชาติอังกฤษไปลุยฟุตบอลโลก

กัลลาเกอร์ ย้ายไป แอตฯ มาดริด ในราคา 34 ล้านปอนด์ เมื่อซัมเมอร์ 2024 แต่ซีซั่นนี้เพิ่งได้ออกสตาร์ตแค่ 3 เกม

ตามรายงานของ ฟาบริซิโอ โรมาโน่ ระบุว่า "ตราหมี" ไม่ต้องการปล่อยยืมตัว แต่พร้อมขายขาดหากได้ราคาที่เหมาะสม

โรมาโน่ เผยในช่องยูทูบของตัวเองว่า "ผมมองว่ามีโอกาสที่ คอเนอร์ กัลลาเกอร์ จะย้ายออกจาก แอตเลติโก้ มาดริด ในตลาดหน้าหนาว หรือไม่ก็ช่วงซัมเมอร์"

"ขึ้นอยู่กับรูปแบบดีลด้วย แมนฯ ยูไนเต็ด สนใจเขาในช่วงท้ายเดือนสิงหาคม แต่ แอตเลติโก้ ไม่ต้องการปล่อยยืมเลย"

"ถ้ามีข้อเสนอซื้อขาดเข้ามา สถานการณ์อาจเปลี่ยนไป และแหล่งข่าวบอกว่าค่าตัวราว 30 ล้านยูโร (ประมาณ 26 ล้านปอนด์) น่าจะพอทำให้ดีลเกิดขึ้นได้"

นอกจากนี้ยังมีหลายทีมในอังกฤษ รวมถึงในอิตาลี ที่กำลังจับตาอนาคตของ กัลลาเกอร์ ก่อนตลาดเดือนมกราคมเปิดอีกด้วย

9

มาธีอุส คุนญ่า แนวรุกทีมชาติบราซิลของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ออกมาอัพเดตอาการล่าสุดผ่านโซเชียลมีเดีย หลังหายหน้าไปจากทีมตลอด 2 นัดที่ผ่านมา พร้อมทิ้งข้อความชัดเจนว่าเจ้าตัวพร้อมกลับมาซ้อมและลุ้นคืนสนามในเกมพรีเมียร์ลีกที่จะพบ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด คืนวันพฤหัสบดีนี้

คุนญ่า พลาดช่วยทีมในเกมพ่ายเอฟเวอร์ตัน 0-1 และเกมบุกชนะคริสตัล พาเลซ 2-1 หลังมีรายงานว่าเขาได้รับ “อุบัติเหตุระหว่างซ้อม” ส่งผลให้ต้องเข้าสู่กระบวนการเช็กตามโปรโตคอลอาการกระทบกระเทือนศีรษะ

อย่างไรก็ตาม ล่าสุดแข้งวัย 26 ปีได้โพสต์ไอจีสตอรี่ พร้อมข้อความสั้นสามคำว่า “Back back back!” พร้อมภาพรอยยิ้มระหว่างการฝึกซ้อม ซึ่งบ่งบอกชัดเจนว่าเขาผ่านการประเมินอาการและพร้อมกลับมาช่วยทีมได้แล้ว

การกลับมาของคุนญ่าถือเป็นข่าวดีอย่างยิ่งสำหรับกุนซือ รูเบน อโมริม หลังช่วงที่ดาวเตะแซมบ้าพักรักษาตัว ทีมขาดความดุดันและความหลากหลายในเกมรุกอย่างเห็นได้ชัด แม้จะเก็บสามแต้มจากเซลเฮิร์สต์ ปาร์คได้ก็ตาม

10

ฮันซี่ ฟลิค กุนซือ บาร์เซโลน่า เผย โรนัลด์ อเราโฮ่ กองหลังรองกัปตัน มีปัญหาส่วนตัวจึงไร้ชื่อติดทีม ขณะที่ มุนโด้ เดปอร์ติโบ้ สื่อสเปนเผย เป็นเรื่องสภาพจิตใจนักเตะท่ามกลางความกดดันหนัก

กลางสัปดาห์ก่อน อเราโฮ่ สวมปลอกแขนสตาร์ตตัวจริง โดนใบแดงไล่ออกนาที 44 ในเกม แชมป์เปี้ยนส์ ลีก บุกพ่าย เชลซี 3-0

สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา แข้งอุรุกวัยวัย 26 ปี ไม่มีชื่อแม้แต่บนม้านั่ง ขณะที่ บาร์เซโลน่า แข่งเกมลีก เปิดบ้านชนะ อลาเบส 3-1

วันอังคารนี้ บาร์ซ่า เตรียมเจอบิ๊กแมทช์รับการมาเยือน แอตเลติโก้ มาดริด เพื่อรักษาจ่าฝูง ลาลีก้า แต่ อเราโฮ่ จะยังไม่มีส่วนร่วมเช่นเคย

ฤดูกาลนี้ แนวรับผู้เหลือสัญญาถึง 2031 ลงเล่นให้ บาร์ซ่า ไปแล้ว 15 นัดทุกรายการ เป็นตัวจริง 10 ครั้ง ทำ 2 ประตู

"อเราโฮ่ ยังไม่พร้อมลงเล่น มันเป็นเรื่องส่วนตัวของเขา ผมไม่ต้องการพูดมากกว่านี้" ฟลิค สัมภาษณ์ก่อนแข่งที่ สปอติฟาย คัมป์ นู

"ผมขอให้พวกคุณเคารพความต้องการของนักเตะ นั่นคือทุกอย่างที่ผมจะบอกได้"

ฟลิค ไม่ได้บอกสาเหตุไว้ แต่รายงานของสื่อระบุ อเราโฮ่ ร้องขอสโมสร ให้เวลากับเขาเพื่อฟื้นฟูสภาพจิตใจ ภายหลังเจอความกดดันหนัก

แหล่งข่าวเผยเบื้องหลัง อเราโฮ่ รู้ตัวว่าตัวเองไม่ได้อยู่ในช่วงที่ดีที่สุด และการลงสนามต่อไป จะสร้างความเสียหายให้ บาร์เซโลน่า

ทางฝั่งยักษ์ใหญ่คาตาลัน ไม่ได้กำหนดเส้นตายไว้ และสนับสนุนเต็มที่ให้ อเราโฮ่ กลับมาก็ต่อเมื่อรู้สึกว่าตัวเองพร้อมแบบ 100 เปอร์เซนต์

11

ลามีน ยามาล ปีกตัวจี๊ด บาร์เซโลน่า เปิดเผยเคยคิดถึงเรื่องการรับใช้ทีมชาติ โมร็อกโก แต่สุดท้ายตัดสินใจเลือก สเปน แบบไม่ลังเล

ดาวเตะวัย 18 ปี เกิดและโตที่ บาร์เซโลน่า แต่อาจหันไปเล่นให้ โมร็อกโก ตามสัญชาติคุณพ่อ รวมถึง เอควิตอเรียล กินิ ตามสัญชาติคุณแม่

อย่างไรก็ตาม ผลผลิตอคาเดมี่ ลา มาเซีย เลือกรับใช้ "กระทิงดุ" โดยถูกเรียกติดชุดใหญ่ไปตั้งแต่ปี 2023 ได้ลงสนาม 23 ครั้ง ร่วมคว้าแชมป์ยูโร 2024

ต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา CBS สื่อดังเผยบทสัมภาษณ์ ยามาล ถูกถามเขาเข้าใกล้แค่ไหนที่จะลงเอยกับทีมชาติ โมร็อกโก

"มันเป็นสถานการณ์ประหลาด ผมเคยคิดเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่จะเล่นให้ โมร็อกโก" สตาร์อันดับ 2 บัลลงดอร์ เริ่มให้คำตอบ

"ตอนนั้น โมร็อกโก เพิ่งเข้าถึงรอบตัดเชือกในฟุตบอลโลก 2022 และผมก็คิดว่า 'เฮ้ ฉันอาจเล่นให้พวกเขาได้',"

"แต่เมื่อถึงเวลาต้องตัดสินใจ พูดตามตรง ผมไม่เคยมีความลังเล ผมรักและให้ความเคารพ โมร็อกโก แต่ผมก็ต้องการเล่นในยุโรปมาเสมอ"

"ฟุตบอลยุโรป มีผู้ชมมากกว่า และใกล้เคียงกับเวทีระดับนานาชาติมากกว่า แล้วเมื่อเล่นให้ บาร์ซ่า ผมก็ต้องการเป็นแชมป์ยูโร"

"ขอบคุณที่ผมทำแบบนั้นได้แล้ว ตอนนี้ผมกำลังรอคอย ฟุตบอลโลก เพื่อโอกาสเป็นแชมป์อีกครั้ง"

"โมร็อกโก คือประเทศของผมเช่นกัน การเล่นให้พวกเขาจะไม่ใช่เรื่องประหลาดหรือแย่อะไร แต่ สเปน แค่เล่นในยุโรป"

"ผมเติบโตที่สเปน และผมรู้สึกว่าที่นี่คือประเทศของผมเช่นกัน"

12

"เดอะ หมุน" แอนโทนี่ ปีกบราซิลเอัล เบติส ถูกจับภาพขณะยั่วยุแฟนบอลเซบีญ่าบนอัฒจันทร์ ในเกมดาร์บี้แห่งแคว้นอันดาลูเซีย เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

แอนโทนี่ ติดโทษใบแดง หลังถูกไล่ออกจากสนามเมื่อสัปดาห์ก่อน อย่างไรก็ตาม เขาเข้าไปเชียร์เพื่อนร่วมทีมอยู่บ็อกซ์วีไอพีในเกมเบติสบุกชนะเซบีญ่า 2-0

ภาพที่ถ่ายจากอัฒจันทร์เผยให้เห็นอดีตปีกแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กำลังทำให้แฟนบอลเจ้าบ้านเดือดดาลด้วยการฉลองประตูเยาะเย้ยแฟนบอลที่นั่งอยู่ด้านข้างเขาอย่างเกรี้ยวกราด

ก่อนจะถูกตอบโต้ด้วยการขว้างปาขวดและสิ่งของอื่นๆ ใส่

แม้ แอนโทนี่ จะทำผลงานดีในสเปน ยิง 15 จ่าย 8 จาก 39 นัด ก่อนจะมาโดนใบแดงในลีก และเกือบโดนไล่ออกในเกมยูโรปาลีกกลางสัปดาห์ เขายอมรับว่าเสียใจที่พลาดลงเล่นดาร์บี้นัดสำคัญนัดนี้

13

ราฟินญ่า ยอมรับว่าตนกดดันตัวเองมากเกินไปเวลาลงสนาม แต่ความกดดันนั้นเกิดขึ้นจากความต้องการให้ทีมทำผลงานที่ดีออกมา

แข้งบราซิลเลียนได้แสดงให้แฟนบอลบาร์เซโลน่า เห็นถึงสิ่งที่พวกเขาขาดหายไปในเกมเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ด้วยการโชว์ฟอร์มอันยอดเยี่ยมในเกมที่เอาชนะ อลาเบส 3-1

ปีกเดรดล็อคจัดไปสองแอสซิสต์ ช่วยให้ บาร์เซโลน่า กลับมานำเป็นจ่าฝูงอีกครั้ง และได้พูดถึงสิ่งที่เขาต้องการจากเพื่อนร่วมทีมในสนาม

“ผมรู้สึกว่าผมกดดันตัวเองมากเกินไป บางครั้งก็มากเกินไป แต่ผมคิดว่าการกดดันเป็นสิ่งสำคัญ ผมมั่นใจว่าในสนาม บางครั้งเพื่อนร่วมทีมของผมอาจคิดว่าผมพูดมากเกินไป” เขากล่าวกับสื่อ

“แต่ผมจะเรียกร้องจากทุกคนว่าพวกเขาสามารถทำอะไรได้มากกว่านี้ ผมรับผิดชอบ และในห้องแต่งตัวเราทุกคนกอดกันเพื่อฉลองชัยชนะ”

“ผมพูดเสมอว่าเกมรับที่ดีที่สุดเริ่มต้นจากเกมรุก มันเป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่เราสามารถทำได้เพื่อช่วยเกมรับ ผมพยายามวิ่งกดดันเพื่อให้เกมรับเจองานที่ง่ายขึ้น”

“ผมพยายามกดดันเพื่อกดดันพื้นที่เซ็นเตอร์แบ็กของอีกฝ่าย และทำให้ได้บอลคืนมาได้ง่ายขึ้น เป็นเรื่องดีที่ทีมตามผมทันในการเพรสซิ่ง แต่บางครั้งผมก็ทำโดยไม่คิด” ผมคิดแค่ว่าวิ่งไปแย่งเอาบอลกลับมาให้ได้”

ราฟินญ่า ยังกล่าวอีกว่า เขาไม่คิดว่า บาร์ซ่า อยู่ในฟอร์มที่ดีที่สุดในเวลานี้ แต่ก็หวังว่าพวกเขาจะสามารถพลิกสถานการณ์กลับมาได้

“ผู้จัดการทีมรู้สึกว่าเราสามารถทำอะไรได้มากกว่านี้ในสนาม และเราก็รู้ว่าเราสามารถทำได้ดีกว่านี้ เขารู้สึกว่าทีมยังเล่นได้ไม่ดีเท่าที่ควร และผมก็เห็นด้วย” เขากล่าวเสริม

“เราต้องพัฒนาอีกมาก แต่ถึงอย่างนั้น ผมคิดว่าสิ่งสำคัญที่สุดในวันนี้คือการคว้าชัยชนะกลับมา เรามีเวลาที่จะแก้ไขสิ่งที่เราทำผิดพลาด และผมมั่นใจว่าเราจะกลับมาเล่นได้ดีที่สุด เราจะชนะด้วยการเล่นที่ดี แต่ถ้ามีเกมที่เราเล่นไม่ดี ผมก็ไม่สนใจ สิ่งสำคัญคือการคว้าชัยชนะ”

14

อาร์เน่อ สล็อท กุนซือ ลิเวอร์พูล ยืนยัน โม ซาล่าห์ ยังสำคัญกับทีมสุดๆ หลังปีกอียิปต์ เป็นสำรองไม่ถูกใช้งานเกมบุกชนะ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 2-0

"หงส์แดง" ได้ประตูของ อเล็กซานเดอร์ อิซัค กับ โคดี้ กัคโป คว้าชัยครั้งแรกในรอบ 4 นัด ขณะที่ ซาล่าห์ โดนดร็อปใน พรีเมียร์ ลีก เป็นหนแรกตั้งแต่เมษายนปีก่อน

ดาวเตะวัย 33 คือดาวซัลโว ลิเวอร์พูล มาตลอดนับตั้งแต่ย้ายร่วมทีมในปี 2017 แต่ฤดูกาลนี้ ผลงานดร็อปลงไปเพิ่งยิง 5 ประตูจาก 18 นัดทุกรายการ

"ทุกครั้งที่ผมไม่ส่ง เวียร์ตซ์, อิซัค, เอกิติเก้ หรือ ซาล่าห์ ลงเล่น จะมีคำถามแบบนี้ ซึ่งเป็นเรื่องเข้าใจได้ เพราะพวกเขาล้วนยอดเยี่ยม" สล็อท ตอบสื่อหลังแข่ง

"โม มีเส้นทางที่น่าเหลือเชื่อกับสโมสรนี้ เขาคือผู้เล่นที่พิเศษสุดๆ และจะมีอนาคตที่ดีมากกับเรา"

"เราแข่ง 4 เกมใน 10 วันโดยมีผู้เล่นเอาท์ฟิลด์ให้ใช้งานแค่ 14-15 คน และคุณต้องตัดสินใจเลือกทีมที่ดีที่สุด สำหรับรับมือแต่ละเกม"

"วันนี้ เวสต์แฮม เล่นโดยใช้ฟูลแบ็คเติมสูง และให้ปีกหุบเข้าในเป็นประจำ ผมคิดว่าการดร็อป โม จะช่วยเราได้"

"ยังไงก็ตาม โม คือคนสำคัญสุดๆ สำหรับสโมสรนี้ และเขาจะเป็นคนสำคัญของเราต่อไปในอนาคต ดังนั้นมารอดูกันว่าอะไรจะเกิดขึ้น ในเกมกลางสัปดาห์กับ ซันเดอร์แลนด์"

15

อินเตอร์ ไมอามี่ ร้อนแรงต่อเนื่อง ล่าสุดถล่มเอาชนะ นิวยอร์ก ซิตี้ 5-1 คว้าแชมป์อีสเทิร์น คอนเฟอเรนซ์ และผ่านเข้าชิง เอ็มแอลเอส คัพ ได้สำเร็จ

เกมนี้ ลิโอเนล เมสซี่ ทำแอสซิสต์ได้ด้วย ซึ่งนับเป็นแอสซิสต์ที่ 405 ในอาชีพของเขาทั้งสโมสรและทีมชาติ มากที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอล แซงหน้า เฟเรนซ์ ปุสกัส ที่จ่ายให้เพื่อนร่วมทีม 404 ครั้ง

ฆอร์ดี้ อัลบา ทำไป 2 แอสซิสต์ในเกมนี้ แต่คนที่โดดเด่นที่สุดคือ ทาเดโอ อัลเลนเด้ หัวหอกชาวอาร์เจนไตน์ที่กดแฮตทริก

ไมอามี่ จะได้ไปพบ แวนคูเวอร์ ไวท์แคปส์ ทีมของ โธมัส มุลเลอร์ เพื่อชิงแชมป์เอ็มแอลเอส คัพ ในวันที่ 6 ธันวาคม

นี่จะเป็นการเข้าชิงเอ็มแอลเอส คัพ ครั้งแรกของ ไมอามี่ หลังจากที่ไม่เคยผ่านรอบแรกในช่วง 5 ฤดูกาลแรกของสโมสร

หน้า: [1] 2 3 ... 795